วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ประโยคความซ้อน




ประโยคความซ้อน (สังกรประโยค) หมายถึง ประโยคที่รวมประโยคความเดียว ๑ ประโยคเป็นประโยคหลัก แล้วมีประโยคความเดียวอื่นมาเสริม มีข้อสังเกตคือ ประโยคหลัก (มุขยประโยค) กับ ประโยคย่อย (อนุประโยค) ของประโยคความช้อนมี น้ำหนังไม่เท่ากัน

ลักษณะของประโยคความซ้อน

๑.   เป็นประโยคที่รวมเอาประโยคความเดียว ๒ ประโยคไว้ด้วยกัน และมีสันธานเป็นเครื่องเชื่อม
๒.  เมื่อแยกประโยคความซ้อนออกจากกันแล้ว จะมีน้ำหนักหรือความสำคัญไม่เท่ากัน ประโยคหนึ่งจะเป็นประโยคหลัก อีกประโยคหนึ่งจะเป็นประโยคย่อย
๓.  ประโยคย่อยทำหน้าที่เป็น
  • ประธานของประโยค
  • กรรมของประโยค
  • วิเศษณ์ขยายกริยา หรือวิเศษณ์ของประโยค
  • วิเศษณ์ขยายประธานหรือกรรม 








ประโยคความซ้อนมี ๓ ประเภท

๑.   ประโยคความซ้อนที่ประโยคย่อยทำหน้าที่เหมือนคำนาม (นามานุประโยค) เช่น
                                ๑.   ฉันไม่ชอบคนรับประทานอาหารมูมมาม  (กรรม)
                                ๒.   คนขาดมารยาทเป็นคนน่ารังเกียจ  (ประธาน)
                                ๓.   ฉันไม่ได้บอกเธอว่าเขาเป็นคนฉลาดมาก  (กรรม)



.   ประโยคความซ้อนที่มีประโยคย่อยทำหน้าที่คล้ายคำวิเศษณ์ขยายคำนามหรือขยายสรรพนาม และมีสันธาน ที่   ซึ่ง  อัน  เป็นเครื่องเชื่อม เช่น
                                ๑.   ท่าที่ร้องเพลงอวยพโปรดมารับรางวัล
                                ๒.   เราหวงแหนแผ่นดินไทยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเรา
                                ๓.   ฉันเห็นภูเขาซึ่งมีน้ำขังอยู่ข้างใต้



๓.   ประโยคความซ้อนที่มีประโยคหลักและประโยคย่อย  และประโยคย่อยนั้น ๆ อาจทำหน้าที่เหมือนคำนามก็ได้ ทำหน้าที่เหมือนคำวิเศษณ์ก็ได้ จะมีสันธาน  เมื่อ, จน, เพราะ, ตาม, ราวกับ, ให้, ทว่า, ระหว่างที่, เพราะเหตุว่า, เหมือน, ดุจดัง, เสมือน, ฯลฯ เป็นตัวเชื่อม เช่น
                                ๑.   เพื่อน ๆ กลับไปเมื่องานเลิกแล้ว
                                ๒.   ปลัดอำเภอทำงานหนักจนป่วยไปหลายวัน
                                ๓.   เธอนอนตัวสั่นเพราะกลัวเสียงปืน





                                                 




อ้างอิง

         







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น